ความตายแน่นอน
คนทั่วไปเคยได้ยินว่า ความตายเป็นของแน่นอน คือ มันจะเกิดขึ้นแน่นอน ไม่หลบ
เลี่ยงไปไหน แต่เรากลับคิดว่า ความตายเป็นของไม่แน่นอน เพราะมันยังไม่เกิดขึ้น เราไม่รู้ว่า
มันจะเกิดตอนไหน ทําให้เราเข้าใจว่ามันไม่แน่นอน
พอเราคิดว่าความตายไม่แน่นอน ก็เลยมุ่งแสวงหาเงินทองเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
ก่อน แล้วค่อยมาปฏิบัติธรรมภายหลัง เพราะยังมีเวลาอีกมากนัก ไว้ก ่อนตายค่อยปฏิบัติ
ธรรม คงยังทันอยู่
ความคิดเช่นนี้เป็นความโง่เขลาโดยแท้เพราะความตายอาจจะมาถึงก่อนวันพรุ่งนี้
ก็ได้และทุกคนเกิดมาเพื่อตายตามกฎของไตรลักษณ์ที่ทุกอย่างเมื่อเกิดขึ้นก็ต้องแปรปรวนดับ
สลายไป ดังพระพุทธดํารัสว่า
ยถาปิเสลา วิปุลา นภํอาหจฺจ ปพฺพตา
สมนฺตา อนุปริเยยฺยุํ นิปฺโปเถนฺตา จตุทฺทิสา. (สํ.ส. ๑๕/๑๓๖/๑๒๒)
“ภูเขาหินสูงใหญ่เสียดฟ้า กลิ้งมาบดขยี้[ทุกสิ่ง]จากทิศทั้ง ๔ รอบด้าน ฉันใด”เอวํชรา จ มจฺจุจ อธิวตฺตนฺติปาณิโน
ขตฺติเย พฺราหฺมเณ เวสฺเส สุทฺเท จณฺฑาลปุกฺกุเส
น กิญฺจิปริวชฺเชติ สพฺพเมวาภิมทฺทติ. (สํ.ส. ๑๕/๑๓๖/๑๒๒)
“ความแก่และความตายก็ฉันนั้น ย่อมครอบงําเหล่าสัตว์ทั้งกษัตริย์พราหมณ์แพศย์
ศูทร คนจัณฑาล และคนเทขยะ ไม่เว้นใครๆ ย่อมย่ํายีไปทั่ว”น ตตฺถ หตฺถีนํภูมิ น รถานํน ปตฺติยา
น จาปิมนฺตยุทฺเธน สกฺกา เชตุํธเนน วา. (สํ.ส. ๑๕/๑๓๖/๑๒๒)
“ณ ที่นั้น ไม่มีชัยภูมิของพลช้าง พลม้า พลรถ พลเดินเท้า และไม่มีใครเอาชนะได้
ด้วยมนต์ยุทธ์การติดสินบน และอื่นๆ”
พระคันธสาราภิวงศ์