คนหน้าเงิน vs คนหน้าบุญ
คนส่วนใหญ่เกิดมาเพื่อหาเงินให้ตัวเองอยู่ดีมีสุข จึงทํางานหามรุ่งหามค่ำ ยอม
เหน็ดเหนื่อยเอาเวลาไปแลกงาน เอางานไปแลกเงิน
บางคนที่ฉลาดแกมโกง ก็หาเงินทางลัดด้วยการหลอกลวงเงินจากคนอื่นบ้าง ขู่
กรรโชกบ้าง ปล้นชิงบ้าง เพื่อให้ตัวเองได้เงินสมใจ
คนเช่นนี้เรียกว่า คนหน้าเงิน ถือเงินเป็นพระเจ้า พอเงินไม่ได้อยู่กับเขาตลอดไป พอ
ตายไปก็เอาไปไม่ได้ยิ่งเงินที่เกิดจากการโกงคนอื่น เป็นเงินร้อนที่ต้องหมดไปโดยเร็ว
คนหน้าเงินมักมีหน้าตาหมองคล้ํา แก่เกินตัว เพราะใจของเขาเศร้าหมองคิดถึงแต่
ทุจริตที่ไปโกงคนอื่น แถมยังกลัวตกนรกอยู่ตลอดเวลา หรือกลัวคนที่ตัวเองโกงไว้มาทําร้าย
ทําให้นอนหลับไม่สนิท สุขภาพทรุดโทรม ตายเร็ว
แต่คนที่ยึดเอาคําสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง หมั่นบําเพ็ญทาน ศีล และภาวนา
เพื่อความพ้นทุกข์ไม่ทําบาปเพื่อเงิน ชื่อว่า คนหน้าบุญ เพราะเขาถือบุญเป็นสรณะ เป็นที่พึ่ง
ในโลกนี้และโลกหน้า
คนหน้าบุญมีสง่าราศีมีแสงออร่าซ่านออกจากใบหน้าและลําตัว ใครเห็นก็เคารพ
นับถือ รักใคร่สนิทสนม เพราะเขามีความจริงใจไม่มุ่งร้ายต ่อใคร ไม ่คบคนอื่นเพื่อหวังผล
ประโยชน์หรือหลอกลวง
คนหน้าเงินเป็นคนน่าสมเพชที่สุดในโลก เขามีโอกาสพบศาสนาพุทธแล้วยังทําตัว
เป็นคนดีไม่ได้ส่วนคนหน้าบุญเป็นคนมีโชค และทําตัวให้สมกับโชคที่ตัวเองได้รับ ย่อมจะ
เจริญก้าวหน้าทางจิตวิญญาณและดําเนินไปสู่ความหลุดพ้นต่อไป
พระคันธสาราภิวงศ์