คน ๖ จําพวกในโลกมนุษย์
คนที่อยู่ในโลกมนุษย์แบ่งออกเป็น ๖ จําพวกตามนิสัยเคยชินและความประพฤติคือ
๑. คนอยู่ด้วยความโลภเหมือนเปรต เป็นคนที่เอาแต่ได้หาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องโดย
ไม่คํานึงถึงศีลธรรม อยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง รู้สึกหิวกระหายอยากได้ตลอดเวลา เหมือนเปตรที่อดอยากอยู่เสมอ หลังตายแล้วเขามักไปเกิดเป็นเปรต
๒. คนอยู่ด้วยความโกรธเหมือนสัตว์นรก เป็นคนขี้หงุดหงิดขัดเคือง ชอบระบาย
อารมณ์ของตนใส่คนอื่น และโกรธแค้นฝังใจ เหมือนสัตว์นรกที่ถูกทรมานมีแต่ความโกรธ
เคืองอยู่เสมอ หลังตายแล้วเขามักไปเกิดเป็นสัตว์นรก
๓. คนอยู่ด้วยความหลงเหมือนสัตว์ดิรัจฉาน เป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีบาปบุญ
คุณโทษ ชอบกินนอนและเสพกามสุขไปวันๆ เหมือนวัวควายที่อยู่ไปวันๆ รอวันตาย เขาไม่คิดทําความดีเพื่อเป็นเสบียงติดตามตัวต่อไป หลังตายแล้วเขามักไปเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน
๔. คนไม่โลภ เป็นคนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ซื่อสัตย์สุจริต คิดจะทําประโยชน์ให้คนรอบ
ข้างและสังคม ไม่ละโมบของคนอื่นหรือคิดริษยาคนอื่น
๕. คนไม ่โกรธ เป็นคนมีเมตตากรุณา รู้สึกปรารถนาดีต ่อผู้อื่นอย่างจริงใจ และ
สงสารคนที่ตกทุกข์ได้ยาก อีกทั้งมีความอดทนต่อความประพฤติของคนทรามที่ทําร้ายหรือเอาเปรียบตน
๖. คนไม่หลง เป็นคนรู้จักผิดชอบชั่วดีบาปบุญคุณโทษ เชื่อมั่นเลื่อมใสคําสอนของ
พระพุทธเจ้า และอยู่ด้วยความไม่ประมาทในทาน ศีล ภาวนา
บุคคล ๓ จําพวกแรกมักไปเกิดในทุคติภูติส่วน ๓ จําพวกหลังมักไปเกิดในสวรรค์ หรือมาเกิดเป็นมนุษย์อีกด้วยผลกรรมของตน เพราะการเกิดในภพใหม่นั้นมีนิสัยเคยชินและ ความประพฤติของตนเป็นหลัก
ดังนั้น ถ้าเราต้องการจะไปเกิดในสุคติภูมิที่ดีก็ต้องสร้างนิสัยที่ไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง จึงจะส่งผลให้เราไปเกิดในภพภูมิที่ดีได้ตามต้องการ และการทําเช่นนั้นได้ก็เกิดจากการเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ในปัจจุบัน ดังข้อความในหนังสือรวมธรรมบรรยายของพระวา
เสฏฐาภิวงศ์(เล่ม ๑ หน้า ๕๐) ว่า
ปุญฺญกฺเขตฺโต อยํโลโก สสีโม สาสนุชฺชโล
นิพฺพานตรโณ เสฏฺโฐ สพฺพสมฺปตฺติทายโก.“โลกมนุษย์นี้เป็นนาบุญที่มีพระศาสนาเจริญรุ่งเรืองพร้อมทั้งสีมา[ที่ใช้อุปสมบท] เป็นภพอันประเสริฐข้ามไปสู่พระนิพพาน และให้สมบัติทั้งปวงได้”
พระคันธสาราภิวงศ์