ผู้มีปัญญาย่อมรักษาสติไว้เหมือนเก็บรักษาทรัพย์อันประเสริฐ

ความคิดอยู่ในใจของทุกคนตลอดเวลา จบเรื่องนั้นก็คิดเรื่องนี้ หรือคิดถึงเรื่องต่างๆ ซ้ำ

ไปซ้ำมา ทําให้ใจไม่มีช่องว่าง ส่งผลให้เราใช้พลังไปกับความคิดมากมาย ทุกขณะที่มีความคิด

เรามักรู้สึกว่ามีตัวตน เรา ของเรา บุรุษ หรือสตรีอยู่เสมอ ทําให้ปรุงแต่งและตอบสนองสิ่งที่ พบในเชิงลบหรือบวกตลอดเวลา นี้คือความเครียดทางใจที่เราไม่รู้สึกตัว

พระพุทธองค์ตรัสสอนให้ใช้สติแทนที่ความคิดถึงอดีตหรืออนาคต อยู่กับปัจจุบันรูป นาม สติก็จะไปแทนที่ความคิด แล้วส่งผลให้ใจของเราเป็นอิสระจากกิเลส ความสุขที่เกิดขึ้นนี้ จะทําให้ใจเกิดปีติโสมนัส สงบ และเบิกบาน

สติเป็นทรัพย์ภายในที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้เราเก็บรักษาไว้อยู่เสมอ ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี ชาวโลกเห็นคุณค่าของทรัพย์ภายนอก แต่ไม่รู้ว่าตนมีทรัพย์ภายในอยู่ ดังพระพุทธพจน์ว่า

อปฺปมาทญฺจ เมธาวี ธนํ เสฏฺฐํว รกฺขติ.

“ผู้มีปัญญาย่อมรักษาสติไว้เหมือนเก็บรักษาทรัพย์อันประเสริฐ”