จนแต่กาย แต่ไม่จนใจ

จนแต่กาย แต่ไม่จนใจ

บางคนทํางานหาเงินเพื่อให้ร่ำรวย มีฐานะทัดเทียมคนอื่นในสังคม อยากมีบ้านหลัง
โต มีรถหรูๆ ขับ แม้จะต้องกู้หนี้ยืมสิน ผ่อนบ้านผ่อนรถก็ยอม เพราะคนอื่นไม่รู้ว่าเราผ่อน
หรือเปล่า บางคนยังชอบพูดอวดรวยให้คนอื่นได้ยินอีกด้วย

ความร่ํารวยทําให้เราอยู่ดีมีสุขก็จริง แต่ถ้าเรายังเครียดกับงาน หงุดหงิดวิตกกังวล
ตลอดเวลา เราจะไม่มีความสุขกับเงินที่หามาได้เลย ยิ่งนานไปสุขภาพก็ยิ่งแย่มากขึ้น

เราเอาเวลาไปแลกกับงาน เอางานไปแลกกับเงิน แต่เอาเงินไปแลกกับเวลาที่หมดสิ้น
ไปแล้วไม่ได้และมนุษย์เราก็แปลก ทํางานหาเงินเพื่อใช้เงินมารักษาสุขภาพของตัวเองอีก
ทอดหนึ่ง อย่างนี้เรียกว่า หาเงินให้หมอใช้

บางคนมีกินมีใช้พอเพียง อยู่อย่างประหยัด มีความสุขกับการทํางานที่สามารถ
บําเพ็ญทาน ศีล และภาวนาควบคู่กันไป เขาพยายามขัดเกลาจิตของตัวเองให้ค่อยๆ หมดจด
จากความโลภ โกรธ หลง ในขณะเดียวกันก็สั่งสมปัญญาภายในคือวิปัสสนา

บุคคลเช่นนั้นเรียกว่า จนแต่กาย แต่ไม่จนใจ เพราะเขาสั่งสมอริยทรัพย์ให้เพิ่มพูนใน
ชาตินี้และอริยทรัพย์นั้นก็จะติดตามเขาไปในภพต่อๆ ไปแน่นอน

พระคันธสาราภิวงศ์